สร้างแรงบันดาลใจไปวัด กับชุดไทยหลากสี colorful จัดเต็ม!!!เรื่องราวของเที่ยววัดที่ไม่ธรรมดา ที่จะทำให้คุณอยากไปวัดมากกว่าเดิม นอกจากได้บุญแล้ว ที่พิเศษยิ่งกว่านั้นคือconcept และการแต่งตัวไปวัดที่ฉีกกรอบเดิม ๆ ของแบบนี้มันวัดกันที่สไตล์ ถึงจะเรียบร้อยแต่ก็ต้องดูดีและโดดเด่น กับ 10 ชุดไทย colorful ที่จะทำให้คุณสนุกกับการไปวัดอย่างแน่นอน
เริ่มกันที่วัดแรก วัดโสมนัสราชวรวิหาร เป็นพระอารามหลวงชั้นโท พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๔ ทรงสร้างพระราชอุทิศ สมเด็จพระนางเจ้าโสมนัสวัฒนาวดี จึงได้พระราชทานนามว่า “วัดโสมนัสวิหาร” ในต้นรัชกาลของพระองค์
ค่าเข้าชม: ฟรี
เวลาเปิด-ปิด: เปิดทุกวัน 08.00-17.30 น.
สถานที่จอดรถ: มีที่จอดรถ
ประเดิมชุดแรกแบบกรุ้มกริ่ม พอเป็น appetizer หญิงไทยใจงามอย่างเราก็ต้องคว้า “ชุดสีสันสดใสโชว์ความไฉไล” ให้เห็นกันไปเลย
collections ของเราในวันนี้จึงมาในธีม ห่มผ้าสะพัก ทับสไบจีบ และผ้าถุงไล่สีแบบสีสะดุดตา
เกร็ดความรู้ สำหรับผ้าสะพัก ผ้าสะพัก คือ ผ้าสไบประเภทหนึ่งที่เหล่าสตรีสยามนิยมนุ่ง โดยเฉพาะสตรีในราชสำนักเพื่อใช้ในการปกปิดร่างกาย ให้มิดชิดและมีความสุภาพยิ่งกว่าเดิม โดยปรากฎหลักฐานการนุ่งบัญญัติไว้ในธรรมเนียมการแต่งกายของราชสำนัก เช่น “พระมเหสีทรงนุ่งยกห่มผ้าตาดทอง ฉลองพระองค์ทรงสะพักปักปีกแมลงทับ”
สืบเนื่องจากสมัยนั้นผู้หญิงต้องนุ่งห่มผ้าสไบเพียงชั้นเดียว อาจดูไม่งามตาแก่ผู้พบเห็น โดยเฉพาะในรั้วในวัง หรือ งานพิธีในเขตพระราชฐาน ผ้าสะพักจึงทำหน้าที่เพื่อช่วยให้ผู้สวมใส่ดูสุภาพ และงามตายิ่งขึ้น (เพราะสมัยนั้นยังไม่มีชุดชั้นใน T T )
หากใครสนใจเรื่องผ้าสะพัก สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่ลิงก์นี้ https://thaistylestudio1984.com/b/การห่มผ้าสะพัก/
แดดยามเช้าสาดผ่านซุ้มประตูวัด รับวิตามินดีกันหน่อย
เพียงสบตาเท่านั้น หัวใจฉันก็อบอุ่นใจ
– พระวิหารใหญ่และวิหารคตของวัดโสมนัส –
ท่าหญิงชม้อย องศาหน้าและสายตาต้องได้นะท่านี้พูดเลย บวกกับการพ้อยมือเบา ๆ สวย ๆ เริ่ด ๆ
หากเดินถัดมาด้านใน เราจะพบกับพระอุโบสถอันเก่าแก่ของวัดโสมนัส ที่ร่มรื่นเต็มไปด้วยหมู่แมกไม้และพรรณพฤกษานานาพรรณ ภายในพระอุโบสถจะพบจิตรกรรมฝาผนังอันสวยงามที่คงอยู่คู่กาลเวลามานานหลายร้อยปี
แนะนำให้มาวันเสาร์ อาทิตย์ หรือวันพระ ทางวัดจะทำการเปิดโบสถ์และพระวิหารให้เข้าชมตามอัธยาศัย
ชุดที่สองมาในโทนสีแดงหม่น ไล่สีดั่งกลีบบัวที่เบ่งบานท่ามกลางธรรมชาติ ห่มทับด้วยผ้าสะพักสีเหลืองปักดิ้นทอง กลายเป็นคู่สีสุดจี๊ดที่แข่งกันโดดเด้งสุดพลัง คิดว่าน่าจะถูกอกถูกใจสำหรับสาวสไตล์หวานซ่อนเปรี้ยว
ฉันรอพี่ที่หน้าต่างทุกวันเลยนะ
ยิ้มสวย ๆ ก่อนไปต่อที่วัดถัดไปกันเลย
วัดมกุฏกษัตริยารามราชวรวิหาร –
สร้างขึ้นตามพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว หลังจากขุดคลองผดุงกรุงเกษมเป็นคูพระนครชั้นนอกแล้วทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้มีวัดเรียงรายอยู่ตามชายคลองเหมือนที่กรุงศรีอยุธยา จึงโปรดเกล้าฯ ให้สร้างวัดขึ้นเคียงคู่กับวัดโสมนัสราชวรวิหาร
ค่าเข้าชม: ฟรี
เวลาเปิด-ปิด: เปิดทุกวัน 08.00-19.00 น.
สถานที่จอดรถ: มีที่จอดรถ
เข้าไปจะเจอกับพระวิหารหลวงก่อนเลย ซึ่งดูดี ๆ พระวิหารหลวงก็จะมีรูปร่างที่คล้ายกับพระวิหารหลวงของวัดโสมนัสมาก
ชุดนี้มาในโทนชมพูหวาน ๆ ชดช้อย ขนาบด้วยสี aquamarine สอดแทรกอยู่ระหว่างตัวชุด ทำให้เป็นโทนสีแห่งความสดใส เป็นสัญญาณที่บอกให้รู้ว่าความสนุกกำลังเริ่มขึ้นแล้ว Let’s go
ดูมุมข้างหลังก็สวยไม่แพ้กันกับผ้าสะพักสีครีมลายดอกไม้หวาน ๆ กับสีสไบชมพูกะปิ ตอกย้ำความงามราวกับเป็นเจ้าหญิงดิสนีย์เดินเล่นริมระเบียงยังไงอย่างงั้น
– ภายในพระวิหารวัดมกุฏกษัตริยาราม –
ถ่ายข้างนอกกันแล้วมาดูข้างในพระวิหารกันบ้าง มีจิตรกรรมให้ชมอยู่มากมาย ข้างนอกว่างามแล้วข้างในยิ่งงามและนุ่มลึกไปด้วยเรื่องราวของจิตรกรรมที่บอกเล่าเอกลักษณ์ของความเป็นไทยได้เป็นอย่างดี
เผลอหน่อยไม่ได้เลย มีใครถ่ายเราอยู่รึเปล่านะ
– พระอุโบสถวัดมกุฏกษัตริยาราม –
มาต่อกันที่ชุดที่สอง สีข้างบนอ่อนหวาน แต่ข้างล่างแอบแซ่บนะ เป็นโทนสีต่างอารมณ์ที่รวมตัวกันได้อย่างพอดิบพอดี
สิ่งที่ขาดไปไม่ได้คือ “ร่มคันใหญ่ ๆ” ไม่ใช่แค่ที่นี่ แต่เป็นทุกทริปเพราะร้อน!!! เอ้ยยยไม่ใช่ เพราะมันเข้ากับชุดต่างหากล่ะ
ถ่ายให้เห็นข้างหลัง ก็สวยไม่มีที่ติโชว์ผ้าสะพักให้เห็นกันชัด ๆ
ช่อฟ้าแปลกตาน่ารักดี
แตะมือเบา ๆ แล้วดึงหน้าและลำตัวในท่วงท่าให้ดูสง่าอย่างกุลสตรีไทย
สัก 1 โพสต์ก่อนไปต่อวัดที่สาม บ๊ายบายยย
วัดราชสิทธาราม ราชวรวิหาร (วัดราชสิทธิ์) เป็นวัดสมัยกรุงศรีอยุธยา เดิมชื่อ วัดพลับ สมัยรัชกาลที่ ๑ ทรงโปรดเกล้าฯ ให้สร้างวัดใหม่ขึ้นในที่ติดกันกับวัดพลับเดิมและรวมวัดทั้งสองเข้าด้วยกัน
ค่าเข้าชม: ฟรี
เวลาเปิด-ปิด: เปิดทุกวัน 08.00-19.00 น.
สถานที่จอดรถ: มีที่จอดรถ
ประเดิมกันที่ชุดสี blue ocean ห่มทับด้วยผ้าสะพักสีม่วงอ่อน ก่อให้เกิดเรื่องราวใหม่ ๆ เมื่อความสดใส ความร่าเริง และความสุขุมนุ่มลึก พานพบกัน
เดินผ่านกำแพงบริเวณลานจอดรถมีสีน้ำเงินเลยแวะถ่ายสักหน่อย เข้ากับผ้าถุงพอดี
คูลลลลสุด ๆ
ยืนแอ๊คต์เท่ ๆ ถือพัดเบา ๆ ส่งสายตาบอกตากล้องว่า จะถ่ายหรือไม่ถ่ายอย่างมีนัยยะ
ท่าวัยรุ่นแค่ไหนก็ปรับมาใช้กับชุดไทยได้ ไม่มีตกเทรนด์ เพียงแค่เราหลับตาลงรับสายลม (ร้อน ๆ) แค่นั้นก็ได้ภาพอินเนอร์สุดทรงพลัง
ในส่วนนี้เรียกว่า “ตำหนักเก๋งจีน” เป็นที่ประทับจำพรรษาของกษัตริย์ 3 พระองค์ คือ รัชกาลที่ 2 – 4
“ชุดที่สองของวัดนี้มาในโทนสีแดงแรงฤทธิ์”
ถึงจะเป็นสีแดงตัดชมพู แต่ก็ร้อนแรงดั่งไฟบรรลัยกัลป์
ชุดนี้นุ่งผ้าถุงสีกลีบบัวไล่เฉดสี ห่มผ้าสะพักลายอุณาโลมให้ความเป็นสิริมงคลแก่ผู้สวมใส่ พร้อมด้วยห่มสไบจีบสีแดงชาดอีกชั้นหนึ่ง
หน้าต่างพระอุโบสถสุดคลาสสิก
หน้าต่างว่าสวยแล้ว แล้วคนล่ะว่าไงงงงงง
สะบัดนิดหน่อยพองาม ให้ชายสไบได้พลิ้วตามลมเบา ๆ
ไปต่อกันที่วัดที่ 4 เลย
วัดอินทารามวรวิหาร เป็นพระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดวรวิหาร เป็นวัดโบราณที่มีมาตั้งแต่สมัยอยุธยา เป็นวัดหลวงสำคัญอันดับหนึ่งในแผ่นดินกรุงธนบุรี และยังเป็นวัดอนุสรณ์สันติสถานที่สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี มหาวีระกษัตริย์ของไทย
ค่าเข้าชม: ฟรี
เวลาเปิด-ปิด: เปิดทุกวัน 08.00-19.00 น.
เปิดวัดนี้ด้วยชุดสีโทนหวานหยดย้อย ประหนึ่งน้ำผึ้งเดือน 5
เดินเข้าวัดกรุยกรายท่ามกลางดอกไม้ใบหญ้า
นุ่งผ้าถุงสีชมพูเข้ม ห่มผ้าสะพักสีเหลืองจำปาเน้นย้ำ ความชัดเจนให้น้ำหนักของสีส่งกันจนงาม
สีของชุดเข้ากันกับวัดอย่างไม่น่าเชื่อ หวานมดไต่เล๊ยยยยนึกว่าอยู่สวนอุเอโนะ โตเกียว ประเทศญี่ปุ่น
ตรงนี้คือพระอุโบสถหลังใหม่ เป็นที่ประดิษฐาน “พระพุทธชินวร” จะเปิดให้เข้าชมเฉพาะวันเสาร์, อาทิตย์ ดูฤกษ์ดูยามกันดีดีนะ
ชุดนี้มาในธีมน้ำเงินเหลือง ราวกับดอกบุนนาคที่ผลิดอกออกผลยิ้มรับท้องฟ้า
ห่มผ้าสะพักลายคลี่พัดทับสไบจีบสีดอกจำปา นุ่งผ้าสีน้ำเงิน
เขินจุง ส่งยิ้มไว้ก่อนแม่สอนไว้
จริง ๆ ก็อยากจะไปแล้วล่ะ แต่ขอนั่งพักสักนิด ให้กายและใจได้หยุดพัก แหะ ๆ (ความร้อนที่คนบนโลกเท่านั้นที่รู้)
วัดประยุรวงศาวาส เป็นพระอารามหลวงชั้นโท ชนิดวรวิหาร ตั้งอยู่ใกล้กับเชิงสะพานพระพุทธยอดฟ้าฝั่งธนบุรี ก่อสร้างในสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๓
ค่าเข้าชม: ฟรี
เวลาเปิด-ปิด: เปิดทุกวัน 07.00 – 19.00 น.
ชุดแรกของวัดนี้ เปิดด้วยผ้าถุงสีสันแนว earth tone สุดชิค ห่มผ้าสะพักลายเครือดอกไม้สีเขียวอ่อน ให้ความรู้สึกเย็นสบายตาแก่ผู้พบเห็น และผู้สวมใส่ เหมือนดั่งนางไม้ในหมู่พฤกษาใหญ่
แดดยามเย็นผิวนวลจริง ๆ
แสงแดดตกกระทบที่ใบหน้า ต้องเดินให้เห็นท่วงท่าและความมั่นใจ พร้อมก้าวไปสู่จักรวาลลล
ยิ้มสู้แดดกันสักหน่อย ขอรูปสวย ๆ น้าาา
เดินไปตรงไหนก็มีแต่คนมองงงง ส่งยิ้มให้เค้าไปค่าา
ไปต่อที่ชุดสุดท้ายกันเล๊ยยย
ภายในวัดประยุรวงศาวาส ยังมีสถานที่สำคัญอีกอย่าง คือ “เขามอ” ซึ่งเป็นภูเขาจำลองขนาดใหญ่ ตั้งอยู่กลางสระน้ำ ก่อขึ้นจากหินเป็นจำนวนมากให้มียอดเขาลดหลั่นกันตามลำดับ ภายในบริเวณเขามอประดับต้นไม้ด้วยพันธุ์ไม้หายาก เป็นที่ประดิษฐานพระสถูปเจดีย์ พระพุทธปรางค์ พระวิหารหลวงจำลอง สังเวชนียสถานจำลอง และศาลารายน้อยใหญ่ สร้างความสงบสุขร่มเย็นเป็นสุขให้แก่ชาวบ้านที่มาไหว้พระ
ชุดสองขอมาในโทนพาสเทล ฟิลลิ่งประหนึ่งเดินอยู่ในทุ่งลาเวนเดอร์ สวมบทสาวน้อยยืนท่ามกลางน้ำพุ
บรรยากาศร่มรื่น สดชื่น เหมือนอยู่เขาใหญ่ แฮร่ !
ชุดนี้ห่มผ้าสะพักสีเขียวพาสเทล ทับสไบจีบสีฟ้าครามและนุ่งผ้าไล่สี จากฟ้าไล่ระดับสู่ชมพูอ่อน ช่วยแต่งแต้มความอ่อนหวานให้กับผู้สวมใส่ได้เป็นอย่างดี
ในส่วนนี้คือพระบรมธาตุมหาเจดีย์ เป็นพระเจดีย์องค์ใหญ่ทรงกลม มีช่องคูหาเรียงรายล้อมรอบชั้นล่างพระเจดีย์ 54 คูหา ชั้นบนถัดจากช่องคูหาขึ้นไปมีพระเจดีย์เล็ก 18 องค์ เรียงรายรอบพระเจดีย์องค์ใหญ่
ระฆังดังเพราะคนตี ส่วนคนหน้าตาดีคือเราไง
ถ่ายผ่านดอกบัวสักหน่อยทำให้ดูมีอะไรขึ้นมาทันที
ลองมองที่ไหล่ตัวเองแล้วยิ้มน้อย ๆ ก็จะได้อีกอารมณ์หนึ่ง
โบกมือลาวันนี้ ด้วยแสงสุดท้ายของวัน เอาล่ะ วันนี้ขอตัวไปก่อน หมดแรงแล้ววววว
.
ชมชุดสวย ๆ แล้ว มีโทนไหนสีไหนที่โดนใจอยากแต่งตามกันบ้างหรือเปล่า ? แต่ถ้ายังไม่จุใจสามารถออกแบบและลองใส่ก่อนได้เลยที่นี่ ที่ Thai Style Studio ที่ ๆ คุณจะได้ปลดปล่อยและเปิดเผยความเป็นไทยที่ซ่อนอยู่ในตัวคุณ
นอกจากไปทำบุญอย่างสบายใจ ได้บุญเต็มที่ แุถมยังมีรูปสวย ๆ เอาไว้มาโพสต์เรียกไลก์ทีหลังด้วยล่ะ
หากใครสนใจสถานที่ถ่ายรูปใส่ชุดไทยเพิ่มเติม สามารถตามไปได้ที่ลิงก์นี้เลย https://thaistylestudio1984.com/b/10-สถานที่-ท่องเที่ยวน่าใส่ชุดไทยถ่ายภาพกรุงเทพฯ/
TRULY THAI AUTHENTIC YOU CAN BE
>>ติดตามเรื่องราวความเป็นไทยอย่างใกล้ชิดที่ Thai Style Studio<<
เพราะเราเชื่อว่า “มากกว่าความรู้สึก คือ การได้สัมผัสประสบการณ์ความเป็นไทยด้วยตัวคุณเอง”