การห่มสไบจีบชั้นเดียว

หมายเหตุ การห่มสไบไม่มีแบบแผนชัดเจนว่าจะต้องห่มด้านขวา หรือ ด้านซ้าย ของตัวผู้นุ่ง หากแต่เป็นไปตามความถนัดของผู้นุ่งผ้า โดยคนโบราณนิยมนุ่งห่มผ้าสไบด้านตรงข้ามกับฝั่งที่แขนตนถนัด เพื่อสะดวกต่อการหยิบจับสิ่งของ และการใช้งานในชีวิตประจำวัน TRULY THAI AUTHENTIC YOU CAN BE >>ติดตามเรื่องราวความเป็นไทยอย่างใกล้ชิดที่ Thai Style Studio<< เพราะเราเชื่อว่า “มากกว่าความรู้สึก คือ การได้สัมผัสประสบการณ์ความเป็นไทยด้วยตัวคุณเอง”

nattapaty

October 20, 2020

การนุ่งโจงกระเบน

โจงกระเบน เป็นรูปแบบการนุ่งผ้าประเภทหนึ่งโดย คำว่า โจง หมายถึง การโยง จูงไป กระเบน หมายถึง หาง ซึ่งเป็นคำไทยที่ได้รับอิทธิพลมาจากภาษาเขมรอีกทีหนึ่ง การนุ่งโจงกระเบน จึงหมายถึง “การนุ่งผ้าด้วยวิธีการม้วนชายผ้านุ่งไปเก็บไว้ด้านหลัง” การนุ่งโจงกระเบนยังแบ่งแยกรูปแบบได้อีกหลายประเภท ได้แก่ การนุ่งโจงหางหนู โจงกระเบนคอไก่ การนุ่งโจงหางหงส์ โจงกระเบนแบบมีชายพก โจงกระเบนชักชายสะบัด เป็นต้น ซึ่งในที่นี้เราจะสอนวิธีการนุ่งโจงหางหนูอันเป็นรูปแบบหนึ่งที่ชาวไทยนิยมกัน หมายเหตุ การสอดหางโจงกระเบนเก็บนั้น จำเป็นที่จะต้องสอดเก็บให้เป็นระเบียบและเรียบแบนที่สุดเพื่อไม่ให้เกิดเป็นกระจุกผ้าอัดเป็นชั้นอยู่บริเวณด้านหลังที่เราทำการเหน็บหางกระเบน เพราะจะทำให้เวลานั่งไม่สะดวก และเกิดการเจ็บบริเวณก้นกก ที่คนสมัยก่อนเรียกว่า “เจ็บเหน็บกระเบน” อีกทั้งยังทำให้รูปทรงของโจงกระเบนไม่สง่างามแก่ผู้นุ่งอีกด้วย TRULY THAI AUTHENTIC YOU CAN BE >>ติดตามเรื่องราวความเป็นไทยอย่างใกล้ชิดที่ Thai Style Studio<< เพราะเราเชื่อว่า “มากกว่าความรู้สึก คือ การได้สัมผัสประสบการณ์ความเป็นไทยด้วยตัวคุณเอง”

nattapaty

October 20, 2020

การห่มผ้าสะพัก

การห่มผ้าสะพักปรากฏหลักฐานการนุ่งมาตั้งแต่ครั้งสมัยอยุธยา โดยปรากฎหลักฐานการนุ่งบัญญัติไว้ในธรรมเนียมการแต่งกายของราชสำนัก เช่น “พระมเหสีทรงนุ่งยกห่มผ้าตาดทอง” “ฉลองพระองค์ทรงสะพักปักปีกแมลงทับ” อีกทั้งการห่มผ้าสะพักยังเป็นเครื่องบ่งบอกฐานานุศักดิ์ของผู้นุ่งผ้า และเป็นธรรมเนียมปฏิบัติสำหรับการนุ่งห่มผ้า ในระดับพิธีการของเขตพระราชฐานสำหรับเจ้านายฝ่ายใน และสตรีชั้นสูงในราชสำนักอยุธยาอีกด้วย ทั้งนี้การนุ่งห่มผ้าสะพักเองยังส่งอิทธิพลผลต่อพัฒนาการนุ่งห่มสไบแบบสองชั้นในเวลาต่อมา เพื่อความเรียบร้อย และเพื่อเป็นการปกปิดเรือนร่างของสตรีชาวสยามให้มิดชิดและเหมาะสมในโอกาสต่าง ๆ วิธีการนุ่งห่มผ้าสะพัก TRULY THAI AUTHENTIC YOU CAN BE >>ติดตามเรื่องราวความเป็นไทยอย่างใกล้ชิดที่ Thai Style Studio<< เพราะเราเชื่อว่า “มากกว่าความรู้สึก คือ การได้สัมผัสประสบการณ์ความเป็นไทยด้วยตัวคุณเอง”

nattapaty

October 20, 2020

การนุ่งจีบไว้ชายพก

การนุ่งจีบไว้ชายพก ประกอบด้วย 2 ขั้นตอนหลัก ๆ ได้แก่ การทำชายพก และ การนุ่งจีบหน้า วิธีการทำชายพก หมายเหตุ : ชายพกควรอยู่ฝั่งตรงข้ามกับชายสไบ เพื่อให้เกิดความสมดุลทางองค์ประกอบการแต่งกายแก่ผู้นุ่งไม่ให้เอนเอียง มีน้ำหนักมากค่อนไปทางใดทางหนึ่ง วิธีการทำนุ่งจีบหน้า หมายเหตุ : หากบริเวณชายของจีบหน้าหรือชายพกที่เราพับไว้คลายตัวหรือไม่เป็นชั้นสวยงาม สามารถนำด้าย มาเนาจีบหน้าและชายพกเอาไว้ได้ ทั้งนี้การทิ้งตัวที่สวยงาม และการพับทบจีบหน้าอย่างเป็นระเบียบจะทำให้จีบหน้า และชายพกมีความสวยงามยิ่งขึ้น TRULY THAI AUTHENTIC YOU CAN BE >>ติดตามเรื่องราวความเป็นไทยอย่างใกล้ชิดที่ Thai Style Studio<< เพราะเราเชื่อว่า “มากกว่าความรู้สึก คือ การได้สัมผัสประสบการณ์ความเป็นไทยด้วยตัวคุณเอง”

nattapaty

October 20, 2020

เสื้อครุยและลอมพอก

เสื้อครุยมาจากไหน การสวมใส่เสื้อครุยมีมาตั้งแต่สมัยโบราณในหลายประเทศ ทั้งในแถบเอเชียและยุโรป สำหรับในประเทศไทยมีหลักฐานว่า  พระมหากษัตริย์ได้พระราชทานฉลองพระองค์ครุยหรือเสื้อครุย เป็นเครื่องประกอบพระราชอิสริยยศหรือเครื่องยศในหมวดภูษณาภรณ์ สำหรับพระบรมวงศานุวงศ์ ขุนนาง หรือข้าราชการ ที่ทำความดีความชอบในราชการแผ่นดินมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา ชุดครุยใช้สวมใส่เมื่อเข้าร่วมในงานพระราชพิธีที่สำคัญ เพื่อเป็นการแสดงบรรดาศักดิ์และตำแหน่งของผู้สวมใส่ ซึ่งขุนนางที่มีบรรดาศักดิ์สูงจะได้รับพระราชทานเสื้อครุยที่ปักงดงามวิจิตรบรรจง      ภาพตัวอย่างเสื้อครุยจำลอง พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้านิลรัตน์ กรมหมื่นอลงกฏกิจปรีชาฉลองพระองค์ครุย ขอบคุณภาพจาก นายจอห์น ทอมสัน ลอมพอก เป็นหมวกสำหรับขุนนาง เรียกว่า พอกหรือพอกเกี้ยว เป็นเครื่องแต่งกายชนิดหนึ่งที่ช่วยกำหนดลำดับชั้นยศของขุนนาง เป็นหมวกมียอดคล้ายชฎา ขอบหมวกมีสมรดสีเหลืองหรือดิ้นทองคาดเพื่อความสวยงาม เหนือสมรดขึ้นไปอีกชั้นหนึ่งมีเกี้ยวเป็นรูปวงกลม ประดับด้วยดอกไม้ไหวทองคำ มีปลายแหลม ภาพตัวอย่างลอมพอก ภาพตัวอย่างลอมพอก ภาพตัวอย่างลอมพอก ลอมพอกในสายตาของชาวต่างชาติอย่าง ลา ลูแบร์ ภาพวาดขุนนางชาวสยาม ในสมัยอยุธยา สันนิษฐานว่า เริ่มแรกลอมพอกใช้สวมครอบมวยผม จึงมีรูปร่างสูงแต่ปลายทู่หรือปลายอวบกว่าในสมัยต่อมา อ้างอิงจากรูปจิตรกรรมฝาผนังในวัดต่าง ๆ ที่ยังคงปรากฎหลักฐานอยู่ อาทิ ภาพขบวนพายุหมาตราทางสถลมารคที่วัดยม และ วัดไชยทิศ อันเนื่องจากในช่วงสมัยอยุธยาตอนต้นและตอนกลาง ผู้คนนิยมไว้ผมยาวทั้งชาย และหญิง โดยนิยมมุ่นผมเป็นมวยเหนือศรีษะ ที่เรียก โซงขโดงฤๅโองขโดง หรือ […]

nattapaty

September 12, 2020

ซิ่น / ล้านนากับผ้าซิ่น / ภูมิปัญญาผ้าพื้นเมืองล้านนา

  จิตรกรรมฝาผนังวัดสมุหประดิษฐาราม จ.สระบุรี แสดงการแต่งกายที่ต่างกันระหว่างชาวไทยวนกับคนไทยภาคกลาง ล้านนา หมายถึง ดินแดนที่มีจำนวนที่นานับล้าน ดินแดนแห่งขุนเขาที่มีกลุ่มชนหลายชาติพันธุ์ อาศัยอยู่ในดินแดนแห่งนี้ ได้แก่ กลุ่มชาติพันธ์ไทยวน ไทลื๊อ ไทเขิน ลั๊วะ ฯ  ทั้งที่อาศัยอยู่มาแต่โบราณกาลและพึ่งอพยบเข้ามา อาณาจักรล้านนาจึงมีศิลปกรรม ศาสนา สังคมและวัฒนธรรมเป็นของตัวเองตลอด จิตรกรรมฝาผนังวิหารลายคำวัดพระสิงห์วรมหาวิหาร จ.เชียงใหม่ แสดงวิถีชีวิตชาวบ้านกินเหล้า สูบขี้โย วันนี้เราจะพาไปรู้จักกับ “ซิ่น”  ซึ่งเป็นผ้านุ่งของผู้หญิงชาวล้านนาในอดีต ในวัฒนธรรมผู้หญิงชาวล้านนานั้น ผ้าแต่ละผืนล้วนแฝงไปด้วยคติและความเชื่อตามแต่ละท้องที่ ตลอดจนถึงลวดลายต่าง ๆ บนผ้าซิ่น และตีนจกเองยังเป็นตัวสะท้อนเรื่องราวของชาวล้านนาในแต่ละพื้นถิ่นได้เป็นอย่างดี ในอดีตผู้หญิงชาวล้านนานั้นจะเป็นผู้ทอผ้าซิ่นด้วยตนเอง ส่วนผู้ชายชาวล้านนาเองจะใช้ช่วงเวลาดังกล่าวในการเลือกคู่ครองจากความงดงาม และความขยันขันแข็งที่สะท้อนผ่านความตั้งใจของผู้ทอผ้า โดยอาศัยการทอผ้าและผ้าซิ่นเป็นตัวบ่งบอกความเป็นแม่ศรีเรือนของผู้หญิง หากได้เป็นคู่ครองแล้ว ผู้หญิงชาวล้านนาเองยังมีหน้าที่ทอผ้าสำหรับผู้เป็นคู่ครองของตนอีกด้วย ยิ่งไปกว่านั้นผ้าซิ่นยังมีการใช้ในโอกาสสำคัญต่าง ๆ อันได้แก่ พิธีกรรมทางศาสนา การร่วมงานพิธีสำคัญ เป็นต้น ภาพจิตรกรรมฝาผนังภายในวัดภูมินทร์ จ.น่าน หญิงสาวชาวล้านนาทอผ้าซิ่น ภาพจิตรกรรมฝาผนังภายในวัดภูมินทร์ จ.น่าน    นอกจากนี้ ผ้าซิ่นจะมีการแบ่งแยกตามลักษณะการใช้งาน เมื่อต้องนุ่งสำหรับกิจวัตรทั่วไปจะนิยมใช้ซิ่นต่อตีนต่อเอวธรรมดา แต่หากมีโอกาสสำคัญผู้หญิงชาวล้านนาจะมีการต่อตีนซิ่นด้วยตีนจก ที่มีลวดลายละเอียด […]

nattapaty

September 11, 2020

ผ้าลายอย่าง / ผ้าลายอย่าง…แต่งกายอย่างอยุธยา

สตรีนุ่งผ้าลายอย่าง จิตรกรรมฝาผนังวัดสุทัศน์เทพวราราม ภาพหมู่พระราชธิดาในรัชกาลที่ 4 แต่งพระองค์ด้วยผ้าทรงภูษา ผ้าลายอย่าง วัฒนธรรมเครื่องนุ่งห่มของชาวสยามประกอบด้วยผืนผ้าที่ใช้นุ่งและห่มปกคลุมร่างกาย โดยไม่มีการตัดเย็บเรียกว่านุ่งผืนห่มผืน สยามเป็นเมืองที่ตั้งอยู่ระหว่างแหล่งผลิตผ้าแหล่งใหญ่ของโลกคืออินเดีย ทำให้มีพ่อค้านำผ้าอินเดียเข้ามาทำการค้าขายยังสยามอยู่เสมอ  เทคนิคการเขียนผ้าอินเดียรูปแบบหนึ่ง ผ้าอินเดียสามารถบ่งบอกถึงความแตกต่างทางสังคมได้เพราะผ้าที่ใช้สวมใส่มีความประณีตงดงาม มีหน้าผ้ากว้าง สีสันสดใส  ลวดลายสวยงามและวัสดุหลากหลาย เมื่อเทียบกับผ้าในสยาม ต่อมาราชสำนักสยามได้มีการออกแบบลายผ้าเองและส่งไปผลิต ยังประเทศอินเดียจึงเกิดเป็น “ผ้าลายอย่าง” คือ ผ้าที่ทางราชสำนักสยามเขียนตัวอย่างลาย ส่งไปให้ทางอินเดียผลิตให้ จากหลักฐานที่ปรากฏขึ้นอย่างเด่นชัดในสมัยอยุธยาตอนปลาย ทำให้เห็นว่าผ้าลายอย่างเป็นที่นิยมในช่วงนั้นและมีธรรมเนียมการใช้เฉพาะสำหรับพระมหากษัตริย์ พระบรมวงศานุวงศ์และข้าราชสำนัก รวมถึงเป็นสิ่งของที่พระมหากษัตริย์ใช้พระราชทานแก่ผู้ทำความดีความชอบหรืออาคันตุกะคนสำคัญเท่านั้น    ผ้าลายอย่างประกอบด้วย ๓ ส่วน ได้แก่  โครงสร้างผ้าลายอย่าง ๑. ท้องผ้า หมายถึง พื้นที่ส่วนใหญ่ของผ้าบริเวณตรงกลาง ท้องผ้า ๒. สังเวียนหรือขอบผ้า หมายถึง ลายบริเวณล้อมรอบท้องผ้าตามแนวยาว สังเวียนหรือขอบผ้า ๓. กรวยเชิงหรือเชิงผ้า หมายถึง ลายบริเวณล้อมรอบท้องผ้าด้านกว้าง ซึ่งกรวยเชิงจะเป็นเครื่องบ่งชี้สถานะของผู้สวมใส่   กรวยเชิงหรือเชิงผ้า ซึ่งผ้าลายอย่างสามารถแบ่งออกได้ตามลักษณะโครงสร้างของผ้า ผ้าท้องลาย คือผ้านุ่งที่มีลายทั้งส่วนท้องผ้า ขอบบนและล่างของผ้าหรือสังเวียน และลายกรวยเชิงสามชั้นหรือมากกว่าที่ชายผ้าสองข้าง 2.ผ้าทองพรรณ คือผ้านุ่งที่ไม่มีลายในส่วนท้องผ้า มีเฉพาะลายขอบบนและล่างหรือสังเวียน […]

nattapaty

September 9, 2020

ทรงผมเด็กไทยในสมัยโบราณ / ความเชื่อกับทรงผม

ก่อนที่จะมาเป็นทรงผมที่เราคุ้นเคยกันในปัจจุบัน มาทำความรู้จักแฟชั่นทรงผมเด็กไทยในอดีตกัน  วัฒนธรรมการไว้ทรงผมของเด็กไทยสมัยโบราณจะเป็นไปตามความเชื่อของผู้ใหญ่ในยุคสมัยนั้น ตามความเชื่อแล้วเชื่อกันว่าเด็กที่สุขภาพไม่ค่อยแข็งแรง เจ็บไข้บ่อย ๆ จะนิยมให้ไว้ผมจุกหรือผมเปีย แล้วจะหายจากอาการป่วยนั้นได้  ภาพ “สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ สยามกุฎราชกุมาร พ.ศ.2408” มีลายเซ็นผู้ถ่าย (J.Thomson) ซึ่งทรงผมสำหรับเด็ก มีทั้งหมด ๔ ทรง ได้แก่   “ทรงผมแกละ” พ่อแม่จะโกนผมลูกออกเหลือไว้เป็นกระจุกที่เรียกว่า “แกละ”  ซึ่งเด็กบางคนอาจมีสองแกละ สามแกละ หรือสี่แกละก็ได้ไม่ได้บังคับ   “ทรงผมจุก” ทรงนี้เป็นที่นิยมของคนมีฐานะดี เพราะดูสวย น่ารัก อีกทั้งยังมีมวยให้เสียบปิ่นทอง เงิน นากหรือคล้องพวงมาลัยได้ด้วย แต่ถ้าเป็นเด็กที่มีฐานะยากจนไม่มีเครื่องประดับ พ่อแม่จะใช้ผ้ามัดหรือถักเปียแล้วค่อยทำเป็นมวยไว้ด้านบนแทน  “ทรงผมโก๊ะ” คนโกนจะเหลือผมอยู่แค่กระจุกเดียวตรงขวัญ ส่วนบริเวณอื่นจะโกนจนเกลี้ยง      “ทรงผมเปีย” เป็นทรงที่สืบเนื่องมาจากผมแกละและผมโก๊ะ เมื่อผมปอยที่เหลือเริ่มยาวมาก พ่อแม่ก็จะถักเป็นหางเปียให้เรียบร้อยแล้วปล่อยให้แกว่งไกวตามการเคลื่อนไหวของเด็กจะไม่จับไปมวยแบบทรงผมจุก   นอกจากเรื่องความเชื่อแล้วจะพบว่าประเทศไทยเป็นเมืองร้อน การให้เด็กไว้ผมยาวจะทำให้เด็กเกิดความรำคาญและดูแลรักษายาก แต่จะโกนผมออกทั้งหมดก็ไม่สามารถทำได้ เนื่องจากกลางกะโหลกศีรษะเด็กซึ่งจะเรียกกันว่า “ขวัญ” นั้นยังบอบบางจำเป็นต้องมีสิ่งปกปิดป้องกันอันตราย จึงโกนเฉพาะส่วนอื่น ๆ แล้วปล่อยส่วนกลางกระหม่อมเอาไว้ จนอายุ ๑๑-๑๓ ปี […]

nattapaty

September 9, 2020

ONE GOOD DAY TO BE THAI

ONE GOOD DAY TO BE (DRESSED AS) THAI  AS AUTHENTICALLY UNIQUE AS YOU ARE When I tell people I was visiting Bangkok, they usually think of a tuk-tuk ride, a tasty street food, humid weather, a tour to wonderful – breathtaking attractions and Yes, they’re not wrong, I did do all of that.   What seems […]

nattapaty

April 27, 2020
1 5 6 7